การเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชนไทยภายใต้รัฐบาลทหาร หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 กรณีศึกษา: กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง MBK39
##semicolon##
กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง (MBK39), คณะรักษาความสงบแห่งชาติ, ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, จ่านิวAbstract
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) แนวทางและผลกระทบของการเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนไทยภายใต้รัฐบาลทหาร หลังการรัฐประหาร พ.ศ.2557 และ 2) การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง (MBK39) วิธีการศึกษาเป็นวิธีการศึกษาเชิงเอกสารเพื่อทบทวนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องในแง่สิทธิมนุษยชน สิทธิ และเสรีภาพของประชาชน ขบวนการทางสังคมใหม่ โลกาภิวัตน์ รวมถึงข้อปฏิบัติของหน่วยงานราชการกับการชุมนุม นอกจากนั้นยังใช้วิธีการเข้าร่วมสังเกตการชุมนุมและสัมภาษณ์แกนนำคนสำคัญของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง (MBK39) คือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือที่รู้จักกันในนาม จ่านิว เพื่อใช้ในการอธิปรายเจตนารมณ์ของการเคลื่อนไหวทางการเมือง ผลการศึกษาพบว่า แนวทางและผลกระทบของการเคลื่อนไหวทางการเมืองภาคประชาชนภายใต้รัฐบาลทหาร หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 ในยุคปัจจุบันนั้นเป็นไปตามทฤษฎีขบวนการทางสังคมใหม่แต่เป็นไปได้อย่างจำกัด จึงต้องต้องแสวงหาช่องทางในการเคลื่อนไหวแบบใหม่ที่เป็นไปตามกระแสโลกาภิวัตน์โดยการเลือกใช้ สื่อสังคมออนไลน์ โดยเริ่มจากการนำประเด็นปัญหาทางสังคมที่น่าสนใจและมีผลกระทบต่อประชาชนส่วนมากโพสต์ลงไปในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้านในประเด็นดังกล่าวสามารถมองเห็นและตอบโต้ประเด็นดังกล่าวได้ แต่พอเข้าสู่ช่วงเวลาหนึ่ง การใช้สื่อสังคมออนไลน์ก็ประสบปัญหาจากการนำข้อมูลความสนใจของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จากการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้เกิดการรับสารเฉพาะกลุ่ม เมื่อสื่อสังคมออนไลน์ไม่สามารถใช้เป็นช่องทางของการเคลื่อนไหวได้ จึงนำไปสู่การออกไปชุมนุมบนท้องถนน นอกจากนั้นยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาเพื่อรับมือกับการโต้กลับจากรัฐบาล และเป็นที่แน่นอนว่าการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง (MBK39) ทุกครั้งมักจบลงด้วยการที่แกนนำและผู้ร่วมชุมนุมบางส่วนถูกตั้งข้อกล่าวหาจากรัฐบาล เพราะการเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง (MBK39)เปรียบเสมือนของแสลงของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
