ปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระทำความผิดในคดียาเสพติดของผู้ต้องขัง ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

Abstract

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการกระทำความผิดในคดียาเสพติดของผู้ต้องขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระทำความผิดในคดียาเสพติด การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ต้องขังในทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จำนวน 360 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างตัวแปร 2 กลุ่ม ที่เป็นอิสระต่อกัน สถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างตัวแปรมากกว่า 2 กลุ่มขึ้นไป และสถิติการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุ กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 เครื่องมือในการเก็บข้อมูลคือ แบบสอบถาม ซึ่งเป็นแบบให้ผู้ตอบกรอกแบบสอบถามด้วย โดยสร้างแบบสอบถามขึ้นจากการตรวจสอบเอกสาร ทฤษฎีของงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และปรับปรุงจากแบบสอบถามอื่นที่มีลักษณะคล้ายครึ่งกันตามความเหมาะสม เพื่อรวบรวมข้อมูล

ผลการศึกษาพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีการกระทำผิดในคดียาเสพติด(โทษสถานเบา) มีการกระทำผิดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.49 ครั้ง และการกระทำความผิดในคดียาเสพติด(โทษสถานหนัก) การกระทำผิดเฉลี่ยอยู่ที่ 0.60 ครั้ง และการกระทำความผิดรวมทั้งสองรูปแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 2.09 ครั้ง 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการกระทำความผิดในคดียาเสพ (p-value= .019) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ ปัจจัยด้านการคบหาสมาคมที่แตกต่าง มีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ถดถอย เท่ากับ 0.154 (p-value= .008) ปัจจัยด้านค่านิยมและความเชื่อ มีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ถดถอย เท่ากับ 0.131 (p-value= .013) ปัจจัยด้านการเสริมแรงที่แตกต่าง มีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ถดถอย เท่ากับ 0.138 (p-value= .006) และปัจจัยด้านการเลียนแบบ มีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ถดถอย เท่ากับ 0.242 (p-value= .000) มีผลต่อการกระทำความผิดในคดียาเสพติด ส่วนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด มีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ถดถอย เท่ากับ 0.044 (p-value= .0321) ไม่มีผลต่อการกระทำความผิดในคดียาเสพติด